สถานที่ท่องเที่ยว ที่เที่ยวนครนายก

เขื่อนขุนด่านปราการชลฯ

ตั้งอยู่ที่บ้านท่าด่าน ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก สร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากที่เกิดกับประชาชนชาวนครนายกและจังหวัดใกล้เคียง ตัวเขื่อน ประกอบด้วยเขื่อนหลักและเขื่อนรองสร้างด้วยคอนกรีตบดอัด ปัจจุบันเป็น เขื่อนคอนกรีตบดอัดที่มีความยาวที่สุดในโลก มีความยาวรวม 2,593 เมตร ความสูง ( สูงสุด ) 93 เมตร รับน้ำที่ไหลจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ผ่านน้ำตกเหวนรกลงสู่อ่างเก็บน้ำมีความจุ 224 ล้าน ลบม.

ศาลหลักเมือง

ศาลหลักเมืองเดิมเป็นเสาไม้ ยาวประมาณ 1 เมตรเศษ ปลายเสาแกะสลักเป็นรูปดอกบัว ตั้งอยู่บริเวณกำแพงเมืองเก่า ปัจจุบันคือ บริเวณบ้านพักผู้ช่วยที่ดินจังหวัด และศูนย์บริการสาธารณสุข เทศบาล ต่อมาประมาณ พ.ศ. 2453 ทางราชการเห็นว่าศาลหลักเมืองเดิมชำรุดมาก จึงได้ย้ายหลักเมืองไปประดิษฐานที่ตึกแดงในโรงเรียนสตรีประจำจังหวัดคือ โรงเรียนศรีนครนายกภายหลัง ได้ย้ายมาสร้างใหม่ ณ สถานที่ปัจจุบัน โดยสร้างเป็นศาลาจตุรมุข และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน คู่เมืองของาวจังหวัดนครนายกมาตราบจนถึงทุกวันนี้

โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า

ตั้งอยู่ที่ตำบลพรหมณี ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 14 กม. และห่างจากกรุงเทพฯ โดยทางหลวงสายพหลโยธิน และทางหลวงหมายเลข 33 เส้นหินกอง-นครนายก รวมระยะทางประมาณ 140 กม. บริเวณโรงเรียนอยู่ ติดกับเขาชะโงก มีพื้นที่ประมาณ 3,000 ไร่ เป็นสถานที่ให้การศึกษา แก่ผู้ที่จะรับราชการเป็นายทหารสัญญาบัตรแห่งกองทัพไทย และภายในโรงเรียนนายร้อย จปร. แห่งนี้มีสถานที่น่าสนใจ ได้แก่พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประดิษฐานไว้หน้าบริเวณกองบัญชาการ รร.จปร. บนเขาชะโงก เพื่อความเป็นสิริมงคลในฐานะ ที่พระองค์ทรงเป็นผู้พระราชทานกำเนิด รร.จปร

ศาลเจ้าพ่อขุนด่าน

เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีประชาชนเคารพนับถือมาก ตามประวัติท่านเป็นนายด่านเมืองนครนายก สมัยกรุงศรีอยุธยา วีรกรรมของท่าน คือ การต่อต้านเขมรที่แปรพักตร์ เมื่อปี พ.ศ.2130 ในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ขุนด่านได้รวบรวมผู้คนชาวเมืองนครนายกถอยไปตั้งหลักที่เขาชะโงก แล้วยกกำลังเข้าขับไล่เขมรออกจากนครนายกจนเขมรแตกพ่ายไป ความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้า พ่อขุนด่านยังมีเรื่องเล่าอีกว่าในสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นนำกำลังพลไปตั้งที่เขาชะโงก และได้รื้อศาลเจ้าพ่อขุนด่านเจ้าพ่อขุนด่านได้แสดงอภินิหารทำให้ ทหารญี่ปุ่น ล้มตายเป็นจำนวนมาก

วัดบุญนาครักขิตาราม (วัดต่ำ)

เป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อเศียรนคร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ เลื่อมใสศรัทธาของชาวจังหวัดนครนายก สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยพระร่วง ขุดพบเมื่อ พ.ศ. 2495 ณ บริเวณโรงกลั่นสุราจังหวัดนครนายก ซึ่งตั้งอยู่ใกล้วัดนางหงษ์ ตำบลท่าช้าง โดยขุดพบแต่เศียรไม่มีองค์ และได้นำไปไว้ที่โรงเรียนนายกพิทยา (ปัจจุบันยุบไปแล้ว) ต่อมาได้นำไปประดิษฐานไว้ที่วัดบุญนาครักขิตาราม มาในปี พ.ศ. 2511 นางผล รอดอุไร มีศรัทธาสร้างองค์พระ และอุโบสถถวาย จึงได้ถวายพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “หลวงพ่อเศียรนคร” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

พระพุทธฉาย หรือวัดพระฉาย

แต่เดิมชื่อว่า “วัดเขาชะโงก” เป็นภาพเขียนสี ติดอยู่กับชะโงกผาบนภูเขาเตี้ย ๆ ถัดจากเขาชะโงก พระพุทธฉายนี้ประวัติเดิมเป็นอย่างไรไม่ปรากฏ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งของจังหวัดนครนายก ทุกกลางเดือน 3 จะมีงานนมัสการเป็นประจำทุกปี ทางด้านหลังวัดจะพบ “น้ำตกพระฉาย” เป็นน้ำตกเล็ก ๆ ตกลงมาเป็นสายจากผาสูงประมาณ 30 เมตร มายังแอ่งน้ำเบื้องล่างเล่นน้ำได้จะมีน้ำมากในช่วงฤดูฝน

รอยพระพุทธบาทจำลองเขานางบวช

อยู่ในมณฑปบนขอดเขา นางบวชตั้งอยู่ในท้องที่ ต.สาริกาห่างจาก ตัวจังหวัดประมาณ 9 กม. เขานางบวช สูงประมาณ 100 เมตร ทางขึ้นมีบันไดคอนกรีตจากเชิงเขาถึงมณฑป 227 ชั้น รอยพระพุทธบาทนี้ สร้างไว้ตั้งแต่ พ.ศ. 2401 แรม 8 ค่ำ เดือน 12 ปี ระกา มีงานเทศกาลนมัสการรอยพระพุทธบาทในกลางเดือน 5 ของทุกปี

แหล่งโบราณคดีบ้านดงละคร หรือเมืองดงละคร

ตั้งอยู่ที่ตำบลดงละคร ห่างจากตัวจังหวัดไปทางทิศใต้ขึ้นไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 9 กม. แต่เดิมเรียกกันว่า “เมืองลับแล” เป็นสถานที่ตั้งเมืองโบราณ สมัยขอมมีอำนาจแนวกำแพงเป็นเนินดิน และคูเมืองปรากฏอยู่สันนิษฐานว่าน่าจะมีความสำคัญเกี่ยวข้องกับเมืองศรี มโหสถ เมืองทั้งสองอยู่ห่างกัน 55 กม. โบราณวัตถุที่ค้นพบ เช่น เศียรพระพุทธรูปกะไหล่ทองขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย ตราประทับหัวแหวนรูปปู รูปช้าง แหวน สำริด ลูกปัดแก้ว ลูกปัดหิน ตุ้มหูสำริด

วัดพราหมณี (วัดหลวงพ่อปากแดง)

เป็นวัดที่ประดิษฐาน “พระพุทธรูปปากแดง”พระพุทธรูปเก่าแก่ ซึ่งเล่ากันว่าชาวลาวอพยพได้อัญเชิญมาเมื่อสมัยเวียงจันทน์แตก เป็นที่นับถือของผู้คนจำนวนมาก ในบริเวณวัดยังมี อนุสรณ์สถานกองพลทหารญี่ปุ่นที่ 37 จัดสร้างโดยสมาคม ทหารสหายสงคราม กองพลญี่ปุ่นที่ 37 เมื่อปี พ.ศ. 2535 เพื่อเป็นที่ระลึกถึงดวงวิญญาณของบรรดาทหาร ซึ่งสังกัดในอดีต กองพลญี่ปุ่นที่ 37 จำนวน 7,920 นาย ซึ่งเสียชีวิตในระหว่างสงครามเอเชียบูรพา เมื่อปี พ.ศ. 2482-2488 โดยทำการนำอัฐิ ที่ฝั่งอยู่ในบริเวณวัดมาบรรจุในแท่นที่จัดสร้างขึ้น นอกจากนี้ภายในวัดยังมี สวนสัตว์จำลอง โดยมีปูนปั้นสัตว์ป่ามากมาย อาทิ ช้าง โค กระบือ เก้ง กวาง

น้ำตกลานรักหรือน้ำตกตาดหินกอง

ตั้งอยู่ในตำบลพรหมณี ใช้เส้นทางเดียวกับทางไปน้ำตกสาริกา และ น้ำตกนางรอง โดยแยกซ้ายที่สี่แยกประชาเกษม ประมาณหลักกม.ที่ 8 และเดินทางต่อด้วยถนนลูกรังอีกประมาณ 5 กม. ก็จะถึงบริเวณตัวน้ำตก ซึ่งเกิดจากสายธารเล็ก ๆ ไหลผ่านลานหิน ในช่วงสุดท้ายไหลพุ่งเป็นทางยาว ผ่านลานหินที่กว้างเลียบตรงเชิงเขาเตี้ย ๆ อย่างสวยงาม และแปลกไปจากน้ำตกแห่งอื่น ๆ มีน้ำเฉพาะในฤดูฝน

น้ำตกสาริกา

ตั้งอยู่ที่ตำบลสาริกา ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ น้ำตกสาริกาเป็นน้ำตก ที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สายน้ำไหลตกจากหน้าผาเป็นทอด ๆ สูงถึง 9 ชั้น ผาที่สูงที่สุดสูงประมาณ 200 เมตร แต่ละชั้นมีอ่างรับน้ำ มีน้ำมากในฤดูฝน ส่วนฤดูแล้งน้ำจะแห้ง บริเวณด้านล่างของน้ำตก มีบริการร้านอาหาร และร้านจำหน่ายของที่ระลึก สินค้าพื้นเมือง เช่น ไม้กวาด ดอกไม้ที่ทำจากไม้โสนป่า ฯลฯ า นักท่องเที่ยวเข้าชมต้องเสียค่าผ่านทาง คนละ 20 บาท

น้ำตกนางรอง

ตั้งอยู่ที่ตำบลหินตั้ง อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ไปประมาณ 20 กม. น้ำตกนางรองอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นน้ำตกขนาดกลาง ที่ลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ ไม่สูงนัก มีความสวยงามและเป็นธรรมชาติ

อุทยานวังตะไคร้

ตั้งอยู่ที่ตำบลหินตั้ง ใกล้กับน้ำตกนางรอง อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 16 กม. เป็นของกรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิ์พินิต และหม่อมราชวงศ์หญิงพันธุ์ทิพย์ บริพัตร เป็นอุทยานที่ได้รับการตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ดอก ไม้ประดับนานาพันธุ์ ในเนื้อที่ 1,500 ไร่ มีถนนให้รถยนต์วิ่งเข้าชมในบริเวณได้ เปิดรับนักท่องเที่ยวทั่วไปทั้งประเภทเช้าไปเย็นกลับ และประเภทค้างแรม

อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ

อยู่ที่ตำบลเขาพระ เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กที่มีทิวทัศน์สวยงามตามธรรมชาติมีน้ำตลอดปี มีถนนลาดยางรอบอ่าง เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับพักผ่อนหย่อนใจของประชาชน และใช้เป็นศูนย์กีฬาทางน้ำของจังหวัดนครนายก เนื่องจากมีศักยภาพในการเล่นเรือกรรเชียง เรือแคนูน้ำเรียบ เรือใบ และวินด์เซิฟในบางฤดู
การเดินทาง แยกซ้ายมือจากถนนที่ไปน้ำตกสาริกา-นางรอง บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 1 ไปตามถนนเขาทุเรียนระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร (ทางไปบ้านวังรี)

อ่างเก็บน้ำทรายทอง

อยู่ที่ต.เขาพระ ไปทางเดียวกับอ่านเก็บน้ำ ห้วยปรือเลยมา อีก 4 กม. เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กภูมิประเทศเป็นภูเขาคงความสวยงามตามธรรมชาติ เหนืออ่างเก็บน้ำ ขึ้นไปประมาณ 2 กม. มีน้ำตกชื่อ น้ำตกทรายทอง เป็นน้ำตกขนาดเล็กแต่มีน้ำเกือบตลอดปีต้องเดินเท้าเข้าไปจากอ่างเก็บน้ำ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

อุทยานพระพิฆเนศวร

เกิดจากแนวคิดของ พระราชพิพัฒน์โกศล หรือ หลวงพ่อเณร เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร บางขุนนนท์ กรุงเทพฯ โดยท่านได้รับการถวายที่ดินจำนวน 16 ไร่ จากลูกศิษย์หลวงพ่อภู อดีตเจ้าอาวาสวัดเวฬุราชิน ย่านบางยี่เรือ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่ดินล้อมรอบด้วยคลองธรรมชาติ เดิมที่นั้นท่านตั้งใจจะสร้างเป็นบ้านพักคนชรา แต่ต้องพับโครงการไปจนที่ดินถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน จนกระทั่งท่านเกิดแนวความคิดสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม พร้อมกับการ สร้างพระพิฆเนศองค์ใหญ่ขนาดหน้าตักกว้าง 9 เมตร สูง 15 เมตร ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีศาลาที่พักรวมสำหรับผู้มาปฏิบัติธรรมเป็นหมู่คณะครั้งละประมาณ 100 คน ศาลาฝึกอบรมผู้ปฏิบัติธรรม มีสระว่ายน้ำ ซึ่งอาจจะเรียกว่า ศูนย์ปฏิบัติธรรมสไตล์รีสอร์ท ก็ไม่ผิดนัก

วัดเขาทุเรียน

เป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งเมื่อ พ.ศ.2393 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2539 ปูชนียวัตถุ มีมณฑป อยู่บนยอดเขา ปัจจุบันมีพระครูสิทธิคีรีรักษ์ เป็นเจ้าอาวาสวัด โดยท่านได้ปรับปรุงวัด และได้จัดทำห้องน้ำติดแอร์ สำหรับประชาชนที่มาเยี่ยมเยียน จนได้รับรางวัล สุดยอดส้วม ที่ใครไปแล้วจะต้องประทับใจทุกราย

สถานที่ท่องเที่ยวของอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก

น้ำตกกะอาง

เกิดจากแนวคิดของ ตั้งอยู่ที่ตำบลศรีกะอาง จากตัวเมืองไปตามถนนสุวรรณศรถึงอำเภอบ้านนา เยื้องกับสถานีตำรวจ ภูธรอำเภอบ้านนา มีถนนแยกไปน้ำตกกะอางระยะทาง 11 กม. ลักษณะเป็นลานหินกว้าง มีน้ำตกไหลผ่านตามช่องหิน นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงมีพระพุทธรูปปางสมาธิก่อด้วยอิฐประดิษฐานอยู่บน เนินเขา และมีสถานี เพาะชำกล้าไม้ ของกรมป่าไม้ตั้งอยู่ด้วย

พระพุทธบาท 4 รอย

ประดิษฐาน ณ มณฑปวัดทองย้อย เป็นโบราณสถานอันเก่าแก่ มีคุณค่าทางศิลปะซึ่งแสดงถึงความประณีตงดงามในการประดิษฐ์ การหล่อ ของฝีมือช่างไทยสมัยโบราณ โดยทางวัดจะจัดให้มีงานนมัสการทุกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี

สถานที่ท่องเที่ยวของ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก

ศาลเจ้าพ่อ องครักษ์

ตั้งอยู่ฝั่งแม่น้ำนครนายก ในเขตตำบลสันทรายมูล มีเรื่องเล่าว่าเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ ได้เสด็จประพาสจังหวัดปราจีนบุรีโดยเสด็จผ่านมาตามลำแม่น้ำนครนายก และได้มาประทับแรมบริเวณที่ตั้งศาลเจ้าพ่อองครักษ์ในปัจจุบัน ในระหว่างประทับแรมอยู่นั้นนายทหารราชองครักษ์ได้ป่วย และเสียชีวิตลง เพื่อเป็นที่ระลึกแก่ราชองครักษ์ ทรงมีพระราชประสงค์ให้สร้างศาลขึ้นเป็นอนุสรณ์ ศาลแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกว่า “ศาลเจ้าพ่อองครักษ์” และใช้เป็นชื่อ ของอำเภอองครักษ์ในปัจจุบันด้วย บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อองครักษ์นี้เป็นวังน้ำวน น้ำไหลเชี่ยวมากสำหรับทางราชการถือว่าน้ำตรงวังน้ำเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ จึงได้นำไปทำพิธีสรงน้ำมูรธาภิเษก เมื่อคราวประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาล ปัจจุบัน

ศูนย์ไม้ดอก ไม้ประดับ

อยู่ที่คลอง 15 เป็นแหล่งเพาะขยายพันธุ์พืช ทั้งไม้ดอก ไม้ประดับต่าง ๆ ซึ่งนับว่าใหญ่ที่สุด ในประเทศไทย พันธุ์ไม้ดอก ไม้ประดับจากที่นี่จะจัดส่ง ไปยังแหล่งจำหน่ายต่าง ๆ ทั่วประเทศ นักท่องเที่ยวสามารถแวะชม และเลือกหาซื้อได้ในราคาขายส่ง และที่ศูนย์สาธิตการตลาดหมุ่ 11 มีวัสดุเพาะชำต้นไม้ขายในราคาถูก หาไม่ยากจากปากคลองตรงไปตามถนนเรื่อยๆ และเลี้ยวขวา ตรงวัดสันติธรรมไปประมาณ 8 กม